รวม 10 คำถามยอดฮิตเรื่องการหางานของน้องจบใหม่
JOBBKK จะพาไปไขคำตอบให้น้อง ๆ ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไปครับ
1 Q : สถาบันการศึกษาที่จบมีผลต่อการได้งานไหม ?
A : มีครับ แต่เป็นค่านิยมที่เกิดขึ้นในบางองค์กรเท่านั้น ซึ่งมีทั้งองค์กรที่เลือกเฉพาะมหาวิทยาลัยปิด หรือไม่เลือกเลย จบจากไหนก็ได้ พิจารณาที่ทักษะอย่างเดียว ฉะนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะสุดท้าย จะได้งานหรือไม่ อยู่ที่การเตรียมทักษะให้พร้อมทำงานซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากกว่า
2 Q : เกรดเฉลี่ยมีผลต่อการได้งานไหม ?
A : มีครับ แต่เป็นค่านิยมที่เกิดขึ้นในบางองค์กรเช่นกัน แต่แนะนำว่า หากต่ำกว่า 2.75 ไม่ควรเขียนลงในเรซูเม่ แต่ให้เน้นเขียนทักษะความสามารถและประสบการณ์การฝึกงานให้เต็มที่ สิ่งนี้จะช่วยลบล้างเรื่องเกรดได้ครับ ให้เขาโฟกัสที่ความสามารถของน้องเป็นอันดับแรกดีกว่า เมื่อไปสัมภาษณ์ในบางที่ก็ไม่ถามครับ แต่จริง ๆ ถ้าเขาเห็นความสามารถที่พร้อมแล้ว เกรดเฉลี่ยก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะต่อให้ 4.00 แต่ไม่พร้อมทำงาน ก็ไม่รอดอยู่ดีครับ
3 Q : คุณสมบัติตรงทุกอย่าง แต่ขอบเขตงานมากเกินกว่าเงินเดือนที่เขาให้ ควรรับงานไหม ?
A : ถ้าน้องต้องการงานด่วนและงานนั้นได้พัฒนาได้เพิ่มทักษะที่หลากหลาย แนะนำว่า ควรรับไปก่อนครับ เพราะการได้พัฒนาตัวเองนั้นมีมูลค่าสูงมาก เป็นประสบการณ์ที่นำไปต่อยอดได้ แต่อย่างน้อยควรทำ 1 ปีขึ้นไปและเมื่อไปสมัครที่ใหม่ น้องจะสามารถเรียกเงินเดือนที่สูงขึ้นได้ง่ายมาก แนะนำว่า เริ่มทำงานใหม่อย่าเกี่ยงเรื่องงานหนักนะครับ ให้คิดว่างานหนักเป็นการชุบตัวเราให้มีค่าครับ ดีกว่าทำงานเบาๆ พอเปลี่ยนงานไม่มีอะไรไปเล่าตอนสัมภาษณ์ โอกาสได้งานก็จะน้อยลงไปด้วยครับ
4 Q : ควรระบุเงินเดือนในเรซูเม่เท่าไร ที่เหมาะสมที่สุดและเพิ่มโอกาสถูกเรียกสัมภาษณ์ ?
A : อยู่ที่ตำแหน่งงานครับ สามารถดูในประกาศงานของตำแหน่งนั้นได้เลย แล้วตรวจสอบระดับความพร้อมของทักษะตนเอง ถ้าพร้อมมากมีทักษะตรงตามประกาศทั้งหมด ก็สามารถเรียกเงินเดือนได้ตามจำนวนนั้นเลยแต่อย่างไรช่วงนี้เศรษฐกิจกำลังค่อย ๆ ฟื้นตัว หลายองค์กรอาจยังไม่พร้อมจ่ายเท่าจำนวนที่เคยจ้างในสถานการณ์ปกติที่ผ่านมาครับ ประเมินคร่าวๆ ว่า ในวงเงินที่บริษัทระบุไว้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนหรือไม่เป็นพื้นฐานไว้ครับ ถ้าในประกาศไม่ระบุเงินเดือนก็ประเมินจากเรื่องนี้เช่นกัน ง่ายๆ คือทำงานแล้วต้องมีเงินพอใช้ในชีวิตประจำวันครับ
5 Q : เป็นเด็กกิจกรรมแต่เกรดเฉลี่ยไม่สูงมาก จะหางานยากไหม ?
A : เกรดเฉลี่ยเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนที่สำคัญสุดคือทักษะ ถ้า Present ออกมาได้ว่า น้องเหมาะกับงานนั้น มีทักษะครบถ้วนพร้อมทำงานได้สบาย เรื่องที่ว่าจะเป็นเด็กกิจกรรมหรือไม่ ได้เกรดเท่าไรก็ไม่เกี่ยวเลยครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่สมัครด้วย ถ้าเป็นเด็กกิจกรรมจะเด่นเรื่อง Soft Skills ในการทำงานร่วมกับหลายคน ก็จะได้เปรียบในการสมัครในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมหรือต้องเจอคนเยอะ เช่น การตลาดอีเว้นท์ หรือ HR ที่ต้องบริหารจัดการพนักงานทุกคนในองค์กร เด็กกิจกรรมไม่ใช่เรื่องไม่ดีครับ ในแง่มุมที่ดีก็มีเยอะครับ
6 Q : Skills พื้นฐานใดบ้างที่ต้องมี ไม่ว่าจะสมัครตำแหน่งไหนก็รอด ?
A : โปรแกรมพื้นฐานอย่าง Microsoft Word ,Excel ,PowerPoint เป็นตัวหลักในการทำงาน ทุกตำแหน่งมีโอกาสได้ใช้ ฉะนั้นต้องใช้ให้เก่ง เน้นว่าเก่งนะครับ ต้องรู้ให้ลึก ส่วนไหนไม่รู้ก็ต้องศึกษาไว้ล่วงหน้า เพราะจริง ๆ มันใช้ประโยชน์ได้มากมายเลยครับ รวมถึงเครื่องมืออื่นที่นิยมใช้ Support การทำงาน เช่น Google Drive, Google Form หากใช้เป็นใช้ได้หลากหลายย่อมได้เปรียบ แต่ถ้าเป็นตำแหน่งที่ต้องใช้เป็นหลักเลย เช่น บัญชี ,HR งานส่วนใหญ่อยู่กับ Excel ก็ต้องใช้เป็นทั้งสูตรทั่วไปและสูตรที่ซับซ้อนด้วยครับ
7 Q : ควรฝึก Skills ใดก่อนหางาน เพื่อให้ Skills Gaps ของน้องจบใหม่กับนายจ้างน้อยลง ?
A : อยู่ที่ว่าน้องต้องการสมัครตำแหน่งอะไรครับ เข้าไปดูในประกาศงานที่สนใจได้เลย จะเห็นข้อมูลชัดเจนที่สุด ...เขาต้องการคุณสมบัติอย่างไร หน้าที่งานต้องทำอะไรบ้าง ต้องใช้เครื่องมือใดทำงาน ส่วนนี้แหละครับที่เขาจะดูในเรซูเม่และสัมภาษณ์อีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ว่าน้องมีทักษะที่พร้อมทำงาน พร้อมใช้เครื่องมือที่เขากำหนดรึเปล่า
8 Q : ฝึกงานไม่ตรงสาย ควรสมัครงานสายไหนถึงจะมีโอกาสมากกว่า ?
A : น้องเลือกได้เลยครับว่าอยากทำงานสายไหน ตำแหน่งอะไร แต่เวลาส่งเรซูเม่ต้องแสดงทักษะให้สอดคล้องกับงานที่สมัคร ถ้าเลือกตรงสาย เรซูเม่ต้องเน้นโชว์ทักษะความรู้ที่เรียนมาให้เด่น ถ้าเลือกนอกสาย เรซูเม่ต้องโชว์ทักษะที่ตรงกับงานนั้นซึ่งอาจได้จากการฝึกงาน
สรุปคือ เลือกได้ทั้ง 2 สาย สำคัญที่ข้อมูลในเรซูเม่ ว่าตรงกับงานนั้นรึเปล่า การฝึกงานที่ไม่ตรงกับสาขาที่เรียนไม่ใช่ประเด็นที่ต้องกังวลเลยครับ อย่างน้อยก็เป็นการฝึกตัวเองในการอยู่ในระบบระเบียบขององค์กร รวมทั้งการติดต่อประสานงาน ,มนุษยสัมพันธ์ ฯลฯซึ่งเป็น Soft Skills ที่สำคัญในงานทุกตำแหน่งเลยครับ
9 Q : ถ้าอยากทำงานนอกสายที่เรียน ต้องพัฒนาตัวเองให้เก่ง 2 เท่าเลยไหม ?
A : ควรดูในประกาศงานของตำแหน่งนั้นก่อนครับ หน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง ต้องใช้เครื่องมือใดทำงาน แล้วตรวจสอบตัวเองอีกที ว่ามีทักษะใดบ้าง ถ้ามีแต่ไม่เพียงพอในระดับที่พร้อมทำงานก็ต้อง Upskills นั้นให้เก่งขึ้น แต่ถ้าไม่มีเลยก็ต้อง Reskills ให้เก่งและพร้อมทำงานเช่นกันครับ แต่ควรเลือกสมัครกับบริษัทที่ไม่เน้นกำหนดสาขาที่เรียนอย่างชัดเจนนะครับ ซึ่งจริง ๆ หลายที่ก็พร้อมเปิดรับทุกสาขาอยู่แล้ว ขอแค่เตรียมตัวให้พร้อม โดยเฉพาะเรื่องทักษะ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะช่วยลบล้างสิ่งที่ไม่ตรงของตัวเราได้มากครับ
10 Q : ไม่ได้ฝึกงาน เพราะสถานการณ์โรคระบาด จะเขียนเรซูเม่อย่างไรให้ได้งาน ?
A : หากไม่ต้องการปล่อยให้ข้อมูลประสบการณ์ฝึกงานว่างเปล่า ให้นำกิจกรรมที่ได้ทำในช่วงนั้นหรือทำในระหว่างเรียนมาเขียนในเรซูเม่ครับ เช่น Project ที่อาจารย์ให้ทำ ,งานพิเศษที่ทำในร้านสะดวกซื้อ ให้นำมาระบุเป็นข้อ ๆ อย่างละเอียดเลยครับ ตั้งแต่เริ่มแรกจนเสร็จสมบูรณ์ ได้ทำอะไรบ้าง โดยใช้เครื่องมือใด HR จะได้เห็นว่าน้องได้ทักษะอะไรบ้างจากสิ่งที่ได้ทำ
อย่างไรแล้ว ไม่อยากให้น้องกังวลว่าการไม่ได้ฝึกงานจะทำให้ไม่ได้งานทำ เรื่องนี้ไม่มีผลขนาดนั้น ทักษะที่พร้อมต่างหาก สำคัญกว่าครับ
Website : www.senmentor.com
Line : wisebrown
Tel : 081-820-9271
ค้นหางานนักศึกษาจบใหม่ เปิดรับสมัครทุกสายงานกว่า 12,023 ตำแหน่ง คลิก >> https://jobbkk.com/go/tXQvk
หางานด่วน เปิดรับกว่า 151,587 อัตรา คลิก >> https://jobbkk.com/go/YtvVO
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด