พนักงานเปรียบเหมือนมดงานที่คอยเติมเต็มความสมบูรณ์ ให้แก่อาณาจักรมดเช่นเดียวกับแต่ละบริษัทที่จะมีจุดมุ่งหมายคือ การสร้างความก้าวหน้าและผลสัมฤทธิ์ของงานแล้วแบบนี้ บริษัทต้องการคนแบบไหน? โดยบริษัทแต่ละประเภทจะมีแนวทางการกำหนดจุดมุ่งหมายเพื่อขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จให้ไปในทางทิศเดียวกันนั่นคือสาเหตุว่าทำไมทุกบริษัทจึงต้องมีแผนกบริหารจัดการทรัพยากรณ์มนุษย์เพื่อคัดเลือกพนักงานที่ตรงตามจุดประสงค์ และมีทักษะที่องค์กรต้องการมากที่สุด หลายคนคงสงสัยว่าอะไรที่จะทำให้นายจ้างอยากที่จะจ้างเราเข้าไปทำงาน บริษัทต้องการคนแบบไหน ที่จะเข้าไปร่วมทำงานด้วยล่ะ และพนักงานแบบไหนที่องค์กรไม่ต้องการ โดยในวันนี้ทาง JOBBKK จะมาบอกว่าทักษะ Hard Skills ของคนทำงานด้านไหนที่นายจ้างอยากจะจ้างทำงาน
ทักษะ Hard Skills คือ ทักษะที่องค์กรต้องการซึ่งสมองที่ใช้ทำงานหรือความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้องกับการทำงานโดยตรง อย่างเป็นรูปธรรมผ่านการเรียนรู้สั่งสมประสบการณ์ เช่น การใช้โปรแกรม การอ่าน การเขียน และการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ดังนั้น ทักษะ Hard Skills จึงจำเป็นสำหรับการทำงาน
การประยุกต์ใช้ทักษะเกี่ยวกับเทคโนโลยีรอบตัวเราให้เกิดประโยชน์ในการทำงาน และมีความรู้ในการใช้เทคโนโลยีเข้ามาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้มีความเข้าใจ และใช้เทคโนโลยีขั้นพื้นฐานมาเป็นตัวช่วยสำคัญในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะเป็นการสื่อสารและทำงานร่วมกับผู้อื่นในลักษณะที่ทำน้อยแต่ได้มากรวมถึงการสร้างคุณค่าและความคุ้มค่าในการทำงาน อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือช่วยให้บุคลากรสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองเพื่อนำไปสู่การได้รับโอกาสในการทำงานที่ดีและเติบโตก้าวหน้าในสายอาชีพอีกด้วย เช่น ในการทำงานกันเป็นทีมจะต้องใช้แอพพลิเคชั่นส่วนกลางไว้สำหรับสื่อสารและมอบหมายงานภายในทีม หรือ Google ฟอร์มที่ใช้ในการรับสมัครพนักงานแทนการแจกใบปลิว ซึ่งทักษะนี้เป็นทักษะที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน อย่างเช่น ในตำแหน่ง IT Support ที่ทุกบริษัทจะต้องมีและเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงานค่อนข้างสูง หากผู้สมัครมีทักษะนี้ก็จะมีโอกาสทางการทำงานที่ดีกว่าคนอื่น
2. ทักษะการใช้ภาษา (Language Skill)
ปัจจุบันนี้ในองค์กรหลายแห่งทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทเอกชนข้ามชาติล้วนต้องมีการติดต่อกับต่างชาติเป็นประจำมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การติดต่อทางโทรศัพท์ การส่งอีเมล การสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน นายจ้าง ลูกจ้าง ซัพพลายเออร์ ซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีว่าภาษากลางที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียนและอื่น ๆ ทั่วโลก คือ ภาษาอังกฤษหากคุณต้องการประสบความสำเร็จอย่างมืออาชีพคุณจำเป็นต้องมีทักษะ และความเชี่ยวชาญในการใช้ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง และลื่นไหลเรียบเรียงรูปประโยคได้อย่างเหมาะสมเพื่อให้การสามารถสื่อสาร และทำความเข้าใจข้อความที่ต้องการสื่อสารได้อย่างครบถ้วนถูกต้อง โดยจะต้องสื่อสารได้อย่างมั่นใจจนสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่คุณติดต่อด้วยรวมถึงยังส่งผลให้การสื่อสารในการทำงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะนี้จึงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเพราะหากคุณทำงานในบริษัทต่างชาติที่ต้องออกไปสื่อสารกับผู้คน อีกทั้งถ้ามีคะแนนวัดระดับภาษาที่สูงก็จะมีสิทธิเรียกเงินเดือนที่สูงขึ้นได้
3. ทักษะการปรับปรุงงาน (Job Improvement)
ทักษะนี้มักจะเกิดกับคนที่ไม่พึงพอใจกับมาตราฐานงานที่มีอยู่ ซึ่งนั่นจะทำให้คนแบบนี้ต้องหาทางแก้ไขปัญหาตลอดเวลาจนทำให้เกิดไอเดียใหม่ๆหรือความคิดสร้างสรรค์ที่บริษัทมักตามหา โดยเทคนิคการปรับปรุงงานจะมีด้วยกัน 3 อย่างคือ
ทุกคนคงสงสัยสิว่าทำไมถึงต้องมีทักษะการปรับปรุงงานทักษะการปรับปรุงงาน คือ คุณสมบัติที่มีความพึงพอใจและไม่พึงพอใจในงานที่ตัวเองต้องรับผิดชอบหมายถึงงานที่เราต้องรับผิดชอบต้องได้ดีกว่านี้ และดีกว่ามาตรฐาน ซึ่งมีด้วยกัน 3 มิติ คือ
เวลา การใช้เทคโนโลยีให้เสร็จเร็วแต่ดีเท่ามาตรฐาน การวางแผนในการทำงานลดเวลา เช่น การทำงานชิ้นนึงที่คาดว่าต้องสำเร็จใน 3 ชั่วโมงลดเหลือให้ 1-2 ชั่วโมงเราจะใช้ทักษะและสกิลทางด้านเทคโนโลยีเข้ามากระชับเวลาในการทำงาน เพื่อให้การทำงานแต่ละงานสามารถเสร็จภายใน 1-2 ชั่วโมง และนำเวลาที่เหลือนั้นไปเพิ่มพูนทักษะความรู้แทน แต่ในขณะที่กำหนดเวลางานของเราก็ยังคงต้องได้มาตรฐานเท่าเดิมหรือว่าดีมากกว่าเดิม
ขั้นตอน การปรับปรุงการปฎิบัติงานของเราให้มีประสิทธิภาพโดยลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฎิบัติงาน สามารถวิเคราะห์ปัญหาของงานที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่ซ้ำซ้อน การสูญเสียเวลาและทรัพยากรที่มากเกินไป สำหรับงานบางอย่างที่เกิดข้อผิดพลาดบ่อยครั้ง โดยหากระบวนการที่ถูกต้องและเหมาะสมเข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหาของงานที่เป็นอยู่เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
คุณภาพ ระดับความพึงพอใจที่สามารถตอบสนองความต้องการ เช่น ความพึงพอใจของลูกค้าในทางที่ดีต่อการใช้สินค้าขององค์กร ความพึงพอใจต่อด้านการบริการและการทำงาน ซึ่งจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานหรือต้องดีกว่ามาตฐานที่ตั้งต้นใว้ คุณภาพของการทำงาน ดูจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่สุดเพราะหากปรับปรุงคุณภาพของการทำงานได้ไม่ว่าจะเรื่องที่องค์กรต้องการนำเสนอคุณค่าใด ๆ ก็สามารถทำให้เกิดความพึงพอใจได้แถมยังสร้างทัศนคติการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ดีภายในองค์กรไปพร้อมๆ กันได้อีกด้วย
เราได้รู้แล้วว่า บริษัทต้องการคนแบบไหน? แล้วพนักงานแบบไหนที่บริษัทไม่ต้องการแยกด้วยกันได้ 3 ประเภท ดังนี้
1. คนที่ขาดความรับผิดชอบ : พนักงานที่ขาดความรับผิดชอบ มักจะไม่ตรงต่อเวลา ละเลยหน้าที่ และไม่ปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของทีม และอาจทำให้เกิดปัญหาในการดำเนินธุรกิจ บริษัทจึงไม่ต้องการพนักงานประเภทนี้
2. คนที่ขาดทักษะการสื่อสาร : การสื่อสารที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานร่วมกับผู้อื่น พนักงานที่ขาดทักษะการสื่อสาร อาจมีปัญหาในการสื่อสารกับลูกค้า เพื่อนร่วมงาน และผู้บังคับบัญชา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานและความสัมพันธ์ในองค์กร บริษัทจึงไม่ต้องการพนักงานประเภทนี้
3. คนที่ขาดความคิดสร้างสรรค์ : ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจมีความรุนแรงมากขึ้น บริษัทต้องการพนักงานที่สามารถคิดนอกกรอบ และนำเสนอแนวคิดใหม่ๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้แตกต่างจากคู่แข่ง พนักงานที่ขาดความคิดสร้างสรรค์จึงไม่เป็นที่ต้องการของบริษัท
จากการที่เราได้รู้ว่า บริษัทต้องการคนแบบไหน? รวมถึงได้ทราบว่าทักษะ Hard Skills ทั้งสามทักษะเป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อจะสอนทุกคนให้มีความมุ่งมั่น เป็นพนักงานแบบที่นายจ้างต้องการ หรือกรณีที่คุณยังไม่ได้เป็นพนักงานที่นายจ้างต้องการตัวหรือยังขาดคุณสมบัติข้อไหนไปให้คุณพยายามพัฒนาศักยภาพของตนเองเพื่อเสริมคุณสมบัติที่ผู้ประกอบการต้องการเข้าไปนะคะไม่ว่าคุณจะไปสมัครงานที่ไหน JOBBKK เชื่อว่าผู้ประกอบการต่างต้องการตัวพนักงานแบบคุณแน่นอนค่ะ
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด