
ผู้สมัครงาน
คนทำงาน Gen Y (1980-1997) อาจจะต้องเตรียมพร้อมและปรับตัวให้ไว เพราะจากผลสำรวจล่าสุดของ Chadix ที่เผยแพร่ใน Forbes คาดการณ์ว่า ตำแหน่งงานของ Gen Y มีความเสี่ยงสูงสุดจากการเข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์ของ AI ในปี 2025
การสำรวจนี้ได้รวบรวมความคิดเห็นจากผู้นำองค์กร เจ้าของธุรกิจ และหัวหน้างานกว่า 2,278 คน พบว่า 38% ของคน Gen Y ที่ส่วนใหญ่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับกลาง อาจได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ เริ่มลงทุนกับ AI เพื่อนำเข้ามาช่วยบริหารจัดการและลดขั้นตอนการทำงานลง ส่งผลให้บทบาทของผู้บริหารระดับกลางอาจลดลงในอนาคตนั่นเองค่ะ
แต่ก็ไม่ใช่แค่คนทำงาน Gen Y เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจาก AI เพราะ Generation อื่น ๆ ก็อาจได้รับผลกระทบด้วยเหมือนกัน
โดย Gen Z (1998-2024) เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงรองจาก Gen Y มีความเสี่ยงประมาณ 25% ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการที่ Gen Z ส่วนใหญ่เป็น First Jobber ที่เพิ่งเริ่มทำงาน ทำให้งานที่ได้รับมอบหมายมักเป็นงานที่ไม่ซับซ้อนและสามารถถูก AI เข้ามาทดแทนได้ง่าย และ Gen Z ยังมีประสบการณ์การทำงานที่น้อยเมื่อเทียบกับ Generation อื่น ๆ
Gen X (1965-1979) มีความเสี่ยงอยู่ที่ 20% โดยมีความเสี่ยงจากตำแหน่งที่พวกเขาดำรงอยู่ แต่ถ้าเป็น Gen X ที่อยู่ในตำแหน่งบริหารระดับสูง ก็จะมีความเสี่ยงที่น้อยกว่าผู้ที่ยังทำงานอยู่ในตำแหน่งระดับกลางหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษ
Baby Boomers (1946-1964) เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดเพียง 10% เนื่องจากส่วนใหญ่จะดำรงตำแหน่งในระดับผู้บริหาร ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ AI เข้ามาแทนที่ได้ยาก หรือหากอยู่ในตำแหน่งปฏิบัติงานทั่วไปก็จะใกล้เกษียณแล้ว จึงไม่ได้รับผลกระทบมากเท่ากับ Generation อื่น ๆ
กลุ่มอาชีพที่เสี่ยงต่อการถูก AI แทนที่มากที่สุด จากการสำรวจ พบว่าแต่ละตำแหน่งมีความเสี่ยงที่แตกต่างกันออกไป โดยงานที่จะได้รับผลกระทบสูงสุดมีดังนี้..
1️. งานธุรการ (มีความเสี่ยงอยู่ที่ 57.1%)
งานที่เกี่ยวข้องกับการป้อนข้อมูล การจัดตารางงาน หรือกระบวนการที่ซ้ำซาก มักจะถูก AI เข้ามาทำให้เป็นระบบอัตโนมัติได้ง่าย
2️. ฝ่าย Customer Service (มีความเสี่ยงอยู่ที่ 46.1%)
บริษัทจำนวนมากเริ่มใช้ แชทบอท AI หรือ ผู้ช่วยเสมือนจริง แทนพนักงาน เพื่อช่วยตอบคำถามลูกค้าและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
3️. ฝ่ายการตลาด/ครีเอทีฟ (มีความเสี่ยงอยู่ที่ 35.1%)
งานสร้างสรรค์อย่างการออกแบบเนื้อหา หรือการทำแคมเปญโฆษณา เริ่มพึ่งพาเครื่องมือที่มี AI เป็นตัวช่วยเพิ่มมากขึ้น
4️. ฝ่ายเทคนิค (มีความเสี่ยงอยู่ที่ 29.4%)
งานด้านเทคนิค เช่น การเขียนโค้ดพื้นฐาน การทดสอบโปรแกรม หรืองานซัพพอร์ตทางเทคนิค สามารถถูก AI เข้ามาแทนที่ได้ในส่วนงานที่ไม่ซับซ้อน (แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงยังคงจำเป็น)
5️. ฝ่ายบริหาร (มีความเสี่ยงอยู่ที่ 15.4%)
แม้การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ยังคงต้องอาศัยมนุษย์ แต่ AI เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในการปรับปรุงเวิร์กโฟลว์และสนับสนุนการตัดสินใจในองค์กร
6️. อื่น ๆ (มีความเสี่ยงอยู่ที่ 4.4%)
ตำแหน่งเฉพาะทาง เช่น ฝ่ายประสานงานด้านโลจิสติกส์ การสรรหาบุคลากร และการตรวจสอบเอกสารทางกฎหมาย
แต่แม้ว่า AI จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงในโลกของการทำงานมากแค่ไหน หากคุณเป็นคนที่เปิดใจเรียนรู้ มีความยืดหยุ่นในการปรับตัว และพัฒนาทักษะใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง คุณㅛจะสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดเหล่านี้ไปได้ และยังคงสร้างคุณค่าให้กับตัวเองในสายตาขององค์กร ไม่ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาไปไกลแค่ไหนก็ตาม ความพร้อมในการเรียนรู้และพัฒนาไม่เพียงช่วยให้คุณอยู่รอดในโลกที่เปลี่ยนแปลง แต่ยังเป็นจุดแข็งที่ทำให้คุณเป็นที่ต้องการอยู่เสมอ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ
จาก : https://www.brandbuffet.in.th/2025/01/millennial-careers-at-risk-due-to-ai/
สอบถามเพิ่มเติมสำหรับ HR
อีเมล : hrbuddybyjobbkk@gmail.com
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved